
- ลักษณะ:
- กอ กอไม่แน่นนัก ขยายกอพอประมาณ ดูแลสะดวก
- ลำต้น ลำโค้งงอเล็กน้อย ผิวลำมีขนสาก ทำให้ “คัน” เมื่อลูบ
- ใบ ใบมีขนเช่นกัน เมื่อสัมผัสจะรู้สึกคัน
- หน่อ หน่อขนาดใหญ่ เนื้อแน่น สีเขียวอ่อนถึงเขียวเข้ม
- ประโยชน์การใช้งาน:
- ให้ หน่อไม้สดคุณภาพดี ขนาดใหญ่ เนื้อหนานุ่ม
- นิยมแปรรูปเป็น หน่อไม้ดอง หน่อไม้แห้ง หน่อไม้ปี๊บ
- ใช้ใน อาหารพื้นบ้าน เช่น แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้
- ขนาดที่ใช้:
- น้ำหนักเฉลี่ย 1 – 3 กิโลกรัมต่อหน่อ
- จุดเด่นเพิ่มเติม:
- หน่อมีรสชาติหวานปนขมนิด ๆ แบบธรรมชาติ เหมาะสำหรับบริโภคทั้งสดและแปรรูป
- โตเร็ว ให้ผลผลิตต่อเนื่องนาน 10 – 15 ปี หากดูแลดี
- ควรระวังการเก็บเกี่ยว เพราะลำต้นและใบมีขน อาจก่อให้เกิดอาการคันได้
บางพื้นที่เรียก “ตงศรีประจัน”

- ลักษณะ:
- กอ กอแน่น ขึ้นชิดกัน แตกหน่อดกในวงกอเดียวกัน
- ลำต้น ลำเขียวเข้ม แขนงเยอะ โคนลำแข็งแรง ลำไม่สูงมาก
- ใบ ใบเรียวยาว ไม่หนาแน่นมาก ช่วยให้แสงส่องถึงพื้นดินได้
- หน่อ หน่อขนาดกลางถึงใหญ่ ทรงกระบอก เนื้อแน่น ไม่มีขน รสชาติหวาน ไม่ขม
- ประโยชน์การใช้งาน:
- เหมาะสำหรับ ผลิตหน่อไม้สดขาย ทั้งตลาดสดและซูเปอร์มาร์เก็ต
- นิยมแปรรูปเป็น หน่อไม้ดอง หน่อไม้ปี๊บ หน่อไม้แห้ง
- ใช้ใน อาหารพื้นบ้านและอุตสาหกรรมอาหาร อย่างแพร่หลาย
- ขนาดที่ใช้:
- น้ำหนักเฉลี่ย 1 – 3 กิโลกรัมต่อหน่อ
- ในฤดูฝน หน่ออาจมีน้ำหนักมากถึง 4 กก./หน่อ
- จุดเด่นเพิ่มเติม:
- ให้ ผลผลิตเร็วภายใน 8–12 เดือน หลังปลูก
- ออกหน่อดกต่อเนื่องหลายเดือน โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนและฤดูร้อน
- เป็นพันธุ์ไผ่ที่ นิยมปลูกเชิงการค้า มากที่สุดในไทย ณ ปัจจุบัน
- หน่องอกง่ายแม้ในดินไม่อุดม ขอเพียงมีระบบน้ำเพียงพอ
เป็นพันธุ์ยอดนิยมสำหรับการปลูกเชิงพาณิชย์เพื่อผลิตหน่อไม้

- ลักษณะ:
- กอ กอขนาดเล็กถึงกลาง กอแน่น หนาแน่นมากในช่วงอายุ 2–3 ปี
- ลำต้น ลำตรงสวย ข้อเรียบ ตาเล็ก ลำไม่สูงมาก เนื้อลำตันบางส่วน
- ใบ ใบเล็ก เรียวยาว สีเขียวอ่อน–เข้มตามวัย
- หน่อ หน่อสีเขียว มีลายตามธรรมชาติ หน่อไม่ขน รสชาติหวาน หอม เนื้อแน่น
- ประโยชน์การใช้งาน:
- นิยมสำหรับ บริโภคสด เช่น แกงหน่อไม้ ซุปหน่อไม้ ลวกจิ้ม
- แปรรูปได้ดี เช่น หน่อไม้ดอง อัดปี๊บ อัดถุง
- ใช้ใน อุตสาหกรรมอาหารพร้อมปรุง
- ขนาดที่ใช้:
- ให้หน่อ 3 – 10 หน่อต่อกิโลกรัม (ขนาดกลาง–เล็ก)
- หนึ่งกอสามารถให้ผลผลิตสูงสุดถึง 60–80 หน่อ/ฤดูกาล
- จุดเด่นเพิ่มเติม:
- รสหวานตามธรรมชาติ รับประทานสดได้โดยไม่ต้องแช่น้ำหรือดอง
- ปลูกง่าย ดูแลง่าย เหมาะสำหรับสวนหลังบ้านหรือแปลงเชิงพาณิชย์
- ให้ผลผลิตต่อเนื่องยาวนาน 10–15 ปี เมื่อดูแลดี
- เหมาะกับพื้นที่ดอน หรือดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี
เป็นพันธุ์ที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติของหน่อไม้

- ลักษณะ:
- กอ กอค่อนข้างห่าง กอไม่แน่น ทำให้เก็บเกี่ยวและแยกกอได้ง่าย
- ลำต้น ลำขนาดเล็กถึงกลาง ไม่สูงมาก ผิวเรียบ ปล้องค่อนข้างสั้น
- ใบ ใบใหญ่ เรียวยาว ช่วยรักษาความชื้นโคนต้นได้ดี
- หน่อ หน่อเรียวยาว สีเขียวปนม่วงอ่อน เนื้อหน่อแน่น มีกลิ่นหอมเฉพาะ รสหวานเล็กน้อย
- ประโยชน์การใช้งาน:
- เหมาะสำหรับ บริโภคหน่อสด หรือนำไป แปรรูปแบบพื้นบ้าน
- ใช้ทำ หน่อไม้ดอง หน่อไม้แห้ง ได้ดี รสชาติยังคงหวาน
- นิยมบริโภคในท้องถิ่น โดยเฉพาะใน จังหวัดแพร่ น่าน อุตรดิตถ์
- ขนาดที่ใช้:
- ให้ผลผลิตเฉลี่ย 3 – 5 หน่อต่อกิโลกรัม (หน่อขนาดกลาง)
- จุดเด่นเพิ่มเติม:
- มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว เมื่อปรุงอาหารจะหอมกว่าหน่อพันธุ์อื่น
- ทนแล้งได้ดีในพื้นที่สูงหรือดอน
- เป็นไผ่ท้องถิ่นที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และส่งเสริมเชิงเศรษฐกิจ
เป็นพันธุ์ท้องถิ่นจากภาคเหนือของไทย มีจุดเด่นเรื่องความหอมของหน่อ

- ลักษณะ:
- กอ กอห่าง ไม่แน่น ช่วยให้แสงส่องถึงพื้นกอได้ดี เหมาะกับการเก็บหน่อ
- ลำต้น ลำขนาดใหญ่ แข็งแรง มีสีเขียวเข้ม ปล้องยาว ข้อเรียบ
- ใบ ใบใหญ่และยาว ทึบแสง ช่วยรักษาความชื้นในบริเวณกอ
- หน่อ หน่อใหญ่ เนื้อแน่น สีเขียวอ่อนถึงเขียวอมเทา มีกลิ่นหอมจาง ๆ
- ประโยชน์การใช้งาน:
- นิยมบริโภคเป็น หน่อไม้สด ในตลาดท้องถิ่นและตลาดกลาง
- ใช้ทำ หน่อไม้ดอง หน่อไม้แห้ง ได้ดี รสไม่ขม
- เหมาะกับ การส่งตลาดชุมชนหรือกลุ่มแปรรูปอาหารพื้นบ้าน
- ขนาดที่ใช้:
- น้ำหนักเฉลี่ย 1 – 3 กิโลกรัมต่อหน่อ
- หน่อบางต้นอาจหนักเกิน 3 กก. หากปลูกในพื้นที่ชุ่มน้ำและได้รับปุ๋ยดี
- จุดเด่นเพิ่มเติม:
- หน่อมี เนื้อแน่น ไม่ยุ่ยเมื่อปรุงอาหาร เหมาะกับแกงหน่อไม้ น้ำพริก
- ทนต่อสภาพภูมิอากาศเย็นและดินดอนสูง
- เป็นพันธุ์พื้นเมืองที่ ทนโรค ทนแล้ง และไม่ต้องดูแลมาก เหมาะกับระบบอินทรีย์
เป็นพันธุ์พื้นถิ่นจากภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะเขตชายแดนแม่ฮ่องสอน – เมียวดี ที่มีชื่อเสียงด้านคุณภาพหน่อไม้