การชำกิ่ง
เป็นวิธีที่นิยมใช้มาก เพราะสะดวก ใช้เวลาไม่นาน และสามารถขยายพันธุ์จากต้นแม่พันธุ์ที่ต้องการได้โดยตรง การชำกิ่งคือการตัดส่วนของลำไผ่มาเพาะให้รากงอก นิยมมากในไผ่เลี้ยง ไผ่กิมซุง ไผ่ซางหม่น ฯลฯ เหมาะสำหรับ ขยายพันธุ์เชิงพาณิชย์ เพราะได้ต้นใหม่เหมือนพันธุ์แม่แน่นอน และสามารถผลิตจำนวนมากในเวลาอันสั้น
การคัดเลือกกิ่งพันธุ์
- เลือกต้นแม่พันธุ์ที่ แข็งแรง ปลอดโรค ลำไม่แก่มาก (อายุ 6–12 เดือน)
- ตัดลำไผ่ช่วงกลางลำ โดยใช้ส่วนที่ มีข้อสมบูรณ์ 2–3 ข้อ
- ควรเป็นลำที่มี ตายอด (ตาใต้ข้อ) ชัดเจน ไม่บอด ไม่แห้ง
- หลีกเลี่ยงลำที่แก่จัดหรือมีปล้องยาวเกินไป
การเตรียมกิ่งชำและวัสดุเพาะ
- ใช้มีดหรือเลื่อยตัดลำไผ่เป็นท่อนยาวประมาณ 30–50 ซม. โดยให้มี ข้ออยู่ 2 ข้อขึ้นไป
- อุดน้ำในข้อด้วยดินเหนียว หรือเติมน้ำสะอาดลงไปครึ่งข้อเพื่อเพิ่มความชื้น
- จุ่มปลายล่างของท่อนชำใน ฮอร์โมนเร่งราก (เช่น IBA หรือ NAA) เป็นเวลา 2–4 ชั่วโมง
- ใช้วัสดุเพาะที่โปร่ง เช่น ทรายหยาบ ขี้เถ้าแกลบ ขุยมะพร้าว หรือดินผสมแกลบ
วิธีการชำกิ่ง
- ปักท่อนชำในวัสดุเพาะลึกประมาณ 10–15 ซม. โดยให้ด้านปลายข้ออยู่ในดิน
- ตั้งท่อนชำให้เอียงประมาณ 45 องศา หรือปักแนวดิ่งก็ได้ (ขึ้นกับพื้นที่)
- รดน้ำให้ชุ่ม และคลุมด้วยพลาสติกโปร่งหรือโดมใส เพื่อรักษาความชื้น
- ตั้งไว้ในที่ แดดรำไร ไม่โดนฝนโดยตรง
- รากจะเริ่มงอกภายใน 2–3 สัปดาห์ และแตกยอดใหม่ใน 4–6 สัปดาห์
แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการชำกิ่ง
- เลือกช่วงเวลาชำใน ต้นฤดูฝน หรือปลายฤดูหนาว เพื่อให้ได้อุณหภูมิเหมาะสม
- พ่นน้ำหมอกหรือใช้ระบบพ่นละออง รักษาความชื้นให้สูง >70%
- ใช้ ฮอร์โมนเร่งรากชีวภาพ (เช่น น้ำมะพร้าวแก่บด หรือจุลินทรีย์เร่งราก)
- ใช้ ถุงดำหรือกระถางขนาดเล็ก แยกต้นเพื่อลดการรบกวนรากเมื่อย้ายปลูก
- เมื่อรากแข็งแรงควร ฝึกให้ชินกับแดด ก่อนย้ายลงแปลง
ข้อดี
- ได้ต้นใหม่ เหมือนพันธุ์แม่แน่นอน
- ใช้เวลาไม่นาน ต้นทุนต่ำ
- ทำได้แม้ในพื้นที่จำกัด เช่น โรงเรือน หรือพื้นที่ยกพื้น
ข้อจำกัด
- บางพันธุ์ไผ่ ออกรากยากหากไม่ได้ใช้ฮอร์โมนเร่งราก
- ต้องดูแลความชื้นอย่างใกล้ชิด
- หากเลือกลำที่แก่หรืออ่อนเกินไป จะไม่ออกราก