การขยายพันธุ์

การชำเหง้า

เป็นวิธีที่ใช้ “ราก–โคนต้น–เหง้า” ของไผ่ในการขยายพันธุ์ โดยมีอัตรารอดสูง เหมาะกับงานปลูกเชิงเศรษฐกิจในแปลงใหญ่ “เหง้า” หมายถึงส่วนลำต้นใต้ดินของไผ่ที่แตกแขนงเป็นรากและหน่อใหม่ การชำเหง้าจึงเป็นการนำเหง้าสดที่มีตาและรากติดอยู่ มาชำในวัสดุเพาะให้แตกต้นใหม่ เป็นวิธีที่ให้ต้นกล้าแข็งแรง เติบโตไว และ เหมือนพันธุ์แม่แน่นอน

การคัดเลือกเหง้า

  • เลือกเหง้าจาก กอไผ่ที่อายุ 1.5 – 3 ปี ที่สมบูรณ์ แข็งแรง
  • เลือกเหง้า ที่มีตาหน่ออย่างน้อย 1 ตา และมีรากติดอยู่
  • หลีกเลี่ยงเหง้าแก่จัดหรือเหง้าอ่อนที่เพิ่งแทงหน่อใหม่
  • ใช้เหง้าที่อยู่ใกล้โคนลำ ไม่ควรเลือกเหง้าปลายสุดที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่

การเตรียมเหง้าและวัสดุเพาะ

  • ขุดเหง้าพร้อมรากและดินติดเล็กน้อย โดยระวังไม่ให้รากหลักขาด
  • ตัดให้มีความยาวของเหง้า 30–50 ซม. พร้อมตาอย่างน้อย 1 ตา
  • แช่น้ำหรือ พ่นละอองน้ำให้เหง้าชุ่มชื้นก่อนชำ
  • เตรียมวัสดุเพาะ เช่น ดินร่วนผสมแกลบดิบหรือขี้เถ้าแกลบ
  • ใส่ปุ๋ยอินทรีย์อ่อน เช่น ปุ๋ยหมักละเอียด หรือจุลินทรีย์เร่งราก

วิธีการชำเหง้า

  • วางเหง้าบนวัสดุเพาะในแนวนอน ให้ตาเฉียงขึ้นเล็กน้อย
  • กลบด้วยวัสดุเพาะสูงประมาณ 5–10 ซม.
  • รดน้ำให้ชุ่มทุกวัน (แต่ไม่แฉะ)
  • ควรวางไว้ในที่ แดดรำไร ความชื้นสูง หรือใช้พลาสติกคลุมเพื่อรักษาความชื้น
  • หน่อใหม่จะเริ่มแทงภายใน 15–30 วัน และรากใหม่จะแข็งแรงใน 1–2 เดือน

แนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการชำเหง้า

  • ขุดเหง้าในช่วง ปลายฤดูฝน – ต้นฤดูหนาว เพื่อให้รากแข็งแรงและแตกหน่อง่าย
  • หากเหง้ามีแผล ให้จุ่มด้วย สารป้องกันเชื้อรา (เช่น ไตรโคเดอร์มา) ก่อนชำ
  • ควรใช้ ระบบพ่นหมอกหรือคลุมด้วยพลาสติกใส เพื่อควบคุมความชื้น
  • ฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพ หรือฮอร์โมนเร่งรากอาทิตย์ละครั้ง
  • คัดต้นที่แทงหน่อเร็ว แข็งแรง แยกปลูกในถุงดำหรือแปลงจริงเมื่ออายุ 2–3 เดือน

ข้อดี

  • อัตราการรอดสูง แข็งแรง โตเร็ว
  • เหมือนพันธุ์แม่แน่นอน
  • เหมาะกับงานปลูกเชิงเศรษฐกิจ/ปลูกแปลงใหญ่

ข้อจำกัด

  • ต้องใช้แรงงานขุดเหง้า
  • เคลื่อนย้ายลำบาก เหง้ามีน้ำหนักมาก
  • หากเหง้าอ่อนหรือแก่เกินไป อาจไม่แตกหน่อใหม่